วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

พระที่นั่งรัตนรังสรรค์



เรื่องตำนานพระราชวังรัตนรังสรรค์นั้น เกี่ยวข้องตำนานเมืองระนอง โดยปี  พ.ศ. 2433   พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ฝ่ายตะวันตก เป็นครั้งแรกที่จะได้เสด็จไปถึงเมืองระนอง พระยารัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง)สร้างที่ประทับรับเสด็จที่บนเนินควนอันอยู่กลางเมือง  สร้างล้วนด้วยเครื่องก่อประกอบกับไม้แก่นอย่างมั่นคง  ประสงค์จะถวายเป็นราชพลีสนองพระเดชพระคุณซึ่งได้ทรงชุบเลี้ยงสกุลวงศ์มา   พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จไปทอดพระเนตรเห็นดำรัสว่า“...ทำงดงามมั่นคงสมควรจะเป็นวังยิ่งกว่าจะเป็นพลับพลา...”  จึงพระราชทานนามว่า “พระราชวังรัตนรังสรรค์”  ให้เป็นเกียรติยศแก่เมืองระนองและสกุลของพระยารัตนเศรษฐีด้วย แต่ทรงพระราชดำริว่าที่เมืองระนองนาน ๆ จะเสด็จประพาสครั้งหนึ่ง วังทิ้งไว้เปล่าก็จะชำรุดทรุดโทรมเสีย   จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า  โดยปกติให้ใช้พระราชวังนั้นเป็นศาลารัฐบาลและทำพิธีสำหรับบ้านเมือง ต่อมีการเสด็จประพาสเมื่อใดจึงให้จัดเป็นที่ประทับ  ต่อมาองค์พระที่นั่งชำรุดทรุดโทรมจึงดัดแปลงสร้าง  เป็นตึก แล้วใช้เป็นศาลากลางเมืองระนอง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6และ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ได้เคยประทับแรม ณ พระที่นั่งรัตนรังสรรค์องค์ใหม่นี้
ต่อมาในปี 2545 จังหวัดระนองได้มีโครงการก่อสร้างพระที่นั่งรัตนรังสรรค์จำลองขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่เดิมเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเสด็จประทับแรมของพระมหากษัตริย์ทั้ง 3 พระองค์ และจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดระนองอีกด้วย
ในวันที่ 24 มิถุนายน 2547 คณะกรรมการบริหารพระที่นั่งรัตนรังสรรค์จำลอง จึงมีมติที่ประชุม ครั้งที่ 1/2547 ว่าให้เรียกชื่อพระที่นั่งรัตนรังสรรค์จำลองเป็น “พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง)”  และสามารถเรียกได้ทั้งสองชื่อ  เนื่องจากคำว่าพระที่นั่งหมายถึงอาคารหนึ่งภายบริเวณในพระราชวังนั่นเอง 



ความสำคัญ
พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) เป็นพระราชวังที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการอนุสรณ์การเสด็จประทับแรมจังหวัดระนองของพระมหากษัตริย์3 พระองค์ ได้แก่ 
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 (ปี พ.ศ.2433) 
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 (ปี พ.ศ.2452) 
และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 (ปี พ.ศ.2471) และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดระนอง






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น