วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555

หาดบางเบน



พอถึงหน้าร้อนแต่หลายคนอาจมองว่าไม่ร้อนอย่างที่คิด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทะเล ก็ยังเป็นอีกจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญอยู่เสมอๆ "หาดบางเบน" อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแหลมสน ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของบ้านบางเบน ตำบลม่วงกลวง อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง 

  หาดบางเบน เป็นหาดทรายยาว และกว้างใหญ่ มีทราย ละเอียด ร่มรื่นด้วยป่าสนธรรมชาติ บริเวณชายหาดจะมองเห็นเกาะแก่งในทะเลได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บ้านพักนักท่องเที่ยว สถานที่กางเต็นท์ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ 


บ่อน้ำร้อนพรรั้ง

ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว เกิดจากสายน้ำแร่ร้อนที่มีอุณหภูมิสูงประมาณ 35-40 องศาเซลเซียล ไหลซึมออกมาจากผิวดิน และกระจายเป็นแอ่ง มีตาน้ำมากถึง 13 ตาน้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมาอาบน้ำแร่แบบใกล้ชิดกับธรรมชาติ
กิจกรรม - อาบน้ำแร่





ภูเขาหญ้า ( เขาหัวล้าน )



ภูเขาหญ้าหรือเขาหัวล้าน หรือเขาผี ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลหงาว จากเขตเทศบาลเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 4 (ระนอง-พังงา) ประมาณ 13 กิโลเมตร เขาหัวล้านหรือเขาผีนี้ เป็นภูเขาที่ไม่มีไม้ใหญ่ขึ้น ในฤดูฝนมีหญ้าสีเขียวขึ้นปกคลุมแนวเขาที่ทอดตัวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ บางครั้งจึงเรียกว่า ภูเขาหญ้า ที่ราบเชิงเขามีทางเดินเท้าสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นสู่บนสันเขาเพื่อชมทิวทัศน์โดยรอบ




ภูเขาหญ้าหรือเขาหัวล้าน
หรือเขาผี อยู่ในเขต ต.หงาว จากเขตเทศบาลเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 4 (ระนอง-พังงา) ประมาณ 11-12 กิโลเมตร เขาหัวล้านหรือเขาผีนี้ เป็นภูเขาที่ไม่มีไม้ใหญ่ขึ้น พืชพรรณที่ปรากฏส่วนใหญ่ในฤดูฝนคือ หญ้าสีเขียวซึ่งขึ้นปกคลุมแนวเขาที่ทอดตัวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ บางครั้งจึงเรียกกันว่า ภูเขาหญ้า ในช่วงฤดูร้อนหญ้าจะตาย ภูเขาจึงแลดูเป็นสีน้ำตาล ที่ราบเชิงเขามีทางเดินเท้าสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นสู่บนสันเขาเพื่อชมทิวทัศน์โดยรอบ




วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

พระที่นั่งรัตนรังสรรค์



เรื่องตำนานพระราชวังรัตนรังสรรค์นั้น เกี่ยวข้องตำนานเมืองระนอง โดยปี  พ.ศ. 2433   พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ฝ่ายตะวันตก เป็นครั้งแรกที่จะได้เสด็จไปถึงเมืองระนอง พระยารัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง)สร้างที่ประทับรับเสด็จที่บนเนินควนอันอยู่กลางเมือง  สร้างล้วนด้วยเครื่องก่อประกอบกับไม้แก่นอย่างมั่นคง  ประสงค์จะถวายเป็นราชพลีสนองพระเดชพระคุณซึ่งได้ทรงชุบเลี้ยงสกุลวงศ์มา   พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จไปทอดพระเนตรเห็นดำรัสว่า“...ทำงดงามมั่นคงสมควรจะเป็นวังยิ่งกว่าจะเป็นพลับพลา...”  จึงพระราชทานนามว่า “พระราชวังรัตนรังสรรค์”  ให้เป็นเกียรติยศแก่เมืองระนองและสกุลของพระยารัตนเศรษฐีด้วย แต่ทรงพระราชดำริว่าที่เมืองระนองนาน ๆ จะเสด็จประพาสครั้งหนึ่ง วังทิ้งไว้เปล่าก็จะชำรุดทรุดโทรมเสีย   จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า  โดยปกติให้ใช้พระราชวังนั้นเป็นศาลารัฐบาลและทำพิธีสำหรับบ้านเมือง ต่อมีการเสด็จประพาสเมื่อใดจึงให้จัดเป็นที่ประทับ  ต่อมาองค์พระที่นั่งชำรุดทรุดโทรมจึงดัดแปลงสร้าง  เป็นตึก แล้วใช้เป็นศาลากลางเมืองระนอง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6และ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ได้เคยประทับแรม ณ พระที่นั่งรัตนรังสรรค์องค์ใหม่นี้
ต่อมาในปี 2545 จังหวัดระนองได้มีโครงการก่อสร้างพระที่นั่งรัตนรังสรรค์จำลองขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่เดิมเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเสด็จประทับแรมของพระมหากษัตริย์ทั้ง 3 พระองค์ และจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดระนองอีกด้วย
ในวันที่ 24 มิถุนายน 2547 คณะกรรมการบริหารพระที่นั่งรัตนรังสรรค์จำลอง จึงมีมติที่ประชุม ครั้งที่ 1/2547 ว่าให้เรียกชื่อพระที่นั่งรัตนรังสรรค์จำลองเป็น “พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง)”  และสามารถเรียกได้ทั้งสองชื่อ  เนื่องจากคำว่าพระที่นั่งหมายถึงอาคารหนึ่งภายบริเวณในพระราชวังนั่นเอง 



ความสำคัญ
พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) เป็นพระราชวังที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการอนุสรณ์การเสด็จประทับแรมจังหวัดระนองของพระมหากษัตริย์3 พระองค์ ได้แก่ 
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 (ปี พ.ศ.2433) 
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 (ปี พ.ศ.2452) 
และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 (ปี พ.ศ.2471) และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดระนอง






สุสานเจ้าเมืองระนอง


เป็นสุสานของพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) อดีตเจ้าเมืองระนอง ที่ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๕ รัชกาลที่ ๕ พระราชทานที่ดินให้เป็นที่ฝังศพที่เขาระฆังทอง เป็นจำนวนเนื้อที่ ๓๗๕ เส้น กับ ๓๐๐ ตารางวา พระรัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง) ผู้เป็นบุตรชายได้จัดการฝังศพตามประเพณีจีน และได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทำคำจารึกลงบนศิลาเกี่ยวกับชาติประวัติทั้งภาษาไทยและภาษาจีนปักไว้เป็นเกียรติยศ ณ ที่ฝังศพ ตามธรรมเนียมจีนเป็นที่ฝังศพของพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) เจ้าเมืองระนอง ชาวบ้านเรียกท่านว่า เจ้าคุณเฒ่า ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในท้องถิ่น เป็นตัวอย่างของผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้ง ๆ ที่อพยพมาจากประเทศจีน เข้ามาเป็นกรรมกรรับจ้าง จนได้ตำแหน่งเป็นเจ้าเมือง ก็เพราะเป็นคนที่มีความกตัญญูกตเวที ซื่อตรง อดทน มัธยัสถ์ รอบรู้ และมองการณ์ไกล รู้จักการจัดการและการแก้ปัญหาทำประโยชน์ให้แผ่นดินอย่างมากเป็นแบบฉบับสำหรับข้าราชการทั้งหลาย อีกทั้งยังมีลูกหลานอยู่ในโอวาทของบิดามารดาจนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานจนได้เป็นใหญ่ในภาคใต้อีกหลายคน จึงเป็นบุคคลที่น่าชื่นชมเอาเยี่ยงอย่างท่าน สุสานเจ้าเมืองระนองจึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวที่มาจังหวัดระนองต้องมาเยือนเป็นสุสานขนาดใหญ่ อยู่บริเวณเชิงเขาขนาดเล็ก หันหน้าไปทางทิศใต้ หน้าสุสานเป็นบริเวณลานกว้างทำด้วยศิลาจากเมืองจีนก่อเขื่อนศิลา ปูศิลาขึ้นไปเป็นชั้นๆ จนถึงสุสานฝังศพ ด้านหนึ่งมีเสาธงศิลาคู่หนึ่ง แพะคู่หนึ่ง เสือคู่หนึ่ง ม้าคู่หนึ่ง ขุนนางฝ่ายบู๊ ฝ่ายบุ๋นคู่หนึ่งเส้นทางเข้าสู่สุสานห่างจากตัวเมืองจากถนนชาติเฉลิมไปตามถนนสายปากน้ำประมาณ ๕ กิโลเมตร




บ่อน้ำร้อน บ่อน้ำแร่เมืองระนอง

                                                                 

บ่อน้ำร้อน สวนสาธารณะรักษะวาริน เป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาตินี้มีอยู่ 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก ทั้ง 3 บ่อ มีอุณหภูมิสูงประมาณ 65 องศาเซลเซียส น้ำพุร้อนแห่งนี้ได้รับการวิเคราะห์จากกรมวิทยา ศาสตร์บริการว่าประกอบด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ และเป็นแหล่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีสารกำมะถันเจือปนอยู่เลย จึงทำให้ไม่มีกลิ่นของกำมะถันและมีความบริสุทธิ์สามารถรับทานได้จากแหล่งกำเนิด โดยไม่ต้องผ่านการกลั่น กรองใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก นอกจากนี้ยังถือเป็นน้ำบริสุทธิ์จึงเป็นแหล่งหนึ่ง ที่นำไปผ่าน พิธีพุทธาภิเษก ทำน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อใช้เป็นน้ำพระพุทธมนต์ในพระราชพิธีฉลองพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภายในบริเวณบ่อน้ำร้อนมีบริการอาบน้ำแร่บำบัดรักษาสุขภาพ่ที่ สยามฮอทสปา ผ่อนคลายความเมื่อยล้าด้วยการบำบัดจากน้ำแร่ ด้านนอกมีบริการแช่เท้าฟรีเพื่อผ่อนคลาย นอกจากนี้บริเวณใกล้ ๆ บ่อน้ำร้อนได้จัดเป็นสวนสาธารณะ "รักษะวาริน" มีศาลาที่พักและห้องอาบน้ำร้อนไว้บริการด้วย